โรคปากนกกระจอกหรือแผลที่มุมปากเป็นโรคที่พบได้ทุกเพศทุกวัย เกิดได้จากหลายสาเหตุ สำหรับวัยเก๋า ปัญหาช่องปากอย่าง “การสูญเสียฟัน” หรือ “ฟันด้านบดเคี้ยวสึก” ก็อาจทำให้เกิดโรคนี้ได้
สาเหตุที่พบบ่อย
1. ปากแห้ง เลียปากบ่อย ๆ ทำให้มีน้ำลายหมักหมมบริเวณมุมปาก เชื้อราเติบโตได้ดี
2. การสูญเสียฟัน/ฟันด้านบดเคี้ยวสึกรุนแรง การสูญเสียฟันหลายซี่ (โดยเฉพาะฟันกราม) และไม่ใส่ฟันทดแทน หรือมีฟันด้านบดเคี้ยวสึกรุนแรงทั้งปาก นอกจากจะทำให้มีใบหน้าสั้น ลงแล้ว ยังทำให้มุมปากตก น้ำลายสะสมบริเวณมุมปาก และเกิดโรคปากนกกระจอกได้
3. เชื้อราในช่องปากหรือที่มุมปาก ทำให้เกิดการระคายเคือง/อักเสบบริเวณมุมปาก ทั้งนี้ นอกจากเชื้อราแล้ว เชื้อแบคทีเรีย หรือแม้แต่ไวรัสบางชนิด เช่น เริม ก็ทำให้เกิดโรคได้ เช่นกัน
4. การขาดวิตามินบี 2 หรือธาตุเหล็ก ทำให้ริมฝีปากแห้งแตก มุมปากซีดและแตกเป็นรอย
อาการ
1. คัน แสบ เจ็บเวลาอ้าปาก
2. มุมปากซีด เปื่อยยุ่ย
3. มีตุ่มพองใสบริเวณมุมปาก
4. มีแผลแตกเป็นร่องที่มุมปาก อาจเกิดเป็นสะเก็ดแผล
5. กรณีรุนแรงอาจมีเลือดออกที่แผลเมื่อขยับหรืออ้าปาก
วิธีป้องกัน
- เช็ดน้ำลายที่มุมปากให้แห้งอยู่เสมอ
- ไม่กัดหรือเลียริมฝีปาก
- ทาลิปมันหรือปิโตรเลียมเจลลี่เมื่อรู้สึกปากแห้ง
- ดูแลช่องปากและฟันทดแทนให้สะอาด
- กินอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบี 2 เช่น ปลา ตับ ถั่ว ผักใบเขียว ฯลฯ และธาตุเหล็ก เช่น ตับ เนื้อแดง ใบกระเพรา ธัญพืช ถั่วต่าง ๆ ฯลฯ
กรณีมีอาการผิดปกติ รู้สึกไม่สบาย หรือเจ็บปวดมาก ๆ แนะนำให้พบทันตแพทย์ค่ะ
แหล่งที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข